ฟุตบอลโลก 2022 นัดที่สองของกลุ่มเอฟ ระหว่าง เบลเยียม ลงเล่นที่สนามอัล ธูมามา สเตเดียม ในกรุงโดฮา เมืองหลวงของเจ้าภาพกาตาร์ เจอกับ โมร็อกโก
โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวสเปนของเบลเยียม วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น มิชิ บัตชัวยี ทำเกมรุกร่วมกับ เควิน เดอ บรอยน์, เอเด็น อาซาร์ และ ธอร์กาน อาซาร์
ด้านโมร็อกโกของ วาลิด เรกรากี เลือกจัดกองทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น ฮากิม ซิเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนไซรี และ โซฟียาน บูฟาล
ครึ่งแรกเป็นฝั่งของโมร็อกโกส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 45+3 จากลูกฟรีคิกทางกราบขวาที่ ฮากิม ซิเย็ค ปั่นโค้งลึกเสีบบตาข่ายเข้าไปเลย ทว่าเมื่อผู้ตัดสินเช็ค VAR ก็ไม่ให้เป็นประตู เพราะว่าดันมี โรแมง ซาอิสส์ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าดันโฉบไปพยายามจะโหม่ง แม้ว่าจะไม่โดนบอลก็ตาม ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังโมร็อกโกมาทำคะแนนขึ้นนำจนได้ ในนาทีที่ 73 จากลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายที่ อับเดลฮามิด ซาบิรี หลอกยิงยัดเข้าเสาแรกผ่านมือ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ เข้าไป ส่งให้ทีมจากแอฟริกาออกนำ 1-0
ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 90+2 โมร็อกโกมาได้ประตูที่สองปิดกล่อง จากจังหวะที่ ฮากิม ซิเย็ค ลากบอลไปสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนจ่ายเข้ากลางให้ ซากาเรีย อาบูคิลาล ตวัดยิงด้วยขวายัดเสาแรกอย่างเด็ดขาด ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นโมร็อกโกชนะไป 2-0
รายชื่อนักเตะ เบลเยียม โมร็อกโก
เบลเยียม (4-2-3-1)
- ธิโบต์ กูร์ตัวส์; โธมัส เมอนิเยร์ (โรเมลู ลูกากู น.81)
- โทบี อัลเดอร์แวเรลด์, ยาน แฟร์ตองเก้น, ทิโมธ กาสตาญ
- อมาดู โอนานา (ยูริ ตีเลอมันส์ น.60)
- อักเซล วิตเซล; เควิน เดอ บรอยน์, เอเด็น อาซาร์ (ดรีส์ เมอร์เทนส์ น.61)
- ธอร์กาน อาซาร์ (เลอันโดร ทรอสซาร์ น.74)
- มิชิ บัตชัวยี (ชาร์เล เดอ เคเตอลาเร น.75)
สำรองไม่ได้ใช้
อาร์กตูร์ เตอัต, เว้าท์ ฟาส, ยานนิค การ์ราสโก้, ซิมง มินโญเลต์, โคเอน กาสตีลส์, เลอันโดร เดนด็องเกอร์, ฮันส์ ฟานาเก้น, โลอิส โอเปนด้า, เฌเรมี โดกู, เซโน เดอบาสต์
ใบเหลือง
อมาดู โอนานา น.29
โมร็อกโก (4-3-3)
- มูนิร มุฮัมเมดี; อัชรอฟ ฮากีมี (ยะห์ยา อัตติยัต อัลลอฮ์ น.68)
- โรแมง ซาอิสส์, นาเยฟ อักราด, นุสแซร์ มาซราอุย; อัซซาดีน อูนาฮี (จาวาด เอล ยามิก น.78)
- โซฟยาน อัมราบัต, เซลิม อมัลลาห์ (อับเดลฮามิด ซาบิรี น.68)
- ฮากิม ซิเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนไซรี (อับเดอร์ราซัค ฮัมดอลลอฮ์ น.73)
- โซฟียาน บูฟาล (ซากาเรีย อาบูคิลาล น.73)
สำรองไม่ได้ใช้
อนาสส์ ซารูรี, อิเลียส แชร์, อับเด เอซซัลซูลี, อัชรอฟ ดารี, วาลิด เชดดิรา, อะหมัด รีฎอ ตัคนาอูตี, บิลาล เอล คานนุส, บาเดอร์ เบนูน, ยะห์ยา จาบราน
ใบเหลือง
อับเดลฮามิด ซาบิรี น.90+5
ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายแฟนบอลเบลเยียม ที่ออกอาละวาดหลังแพ้ “โมร็อกโก” ในบอลโลก
แฟนบอลเบลเยียม รับความปราชัยไม่ได้ออกไปก่อจราจลพังข้าวของใน 3 เมืองใหญ่ ทั้งยังในและนอกประเทศก่อนจุดสิ้นสุดเดียวกันคือแก๊สน้ำตา
วันจันทร์ที่ 28 เดือนพฤศจิกายน 2565 ควันหลงหลังจากเกมที่ ทีมชาติโมร็อกโก สร้างเซอร์ไพรส์สุดพิเศษด้วยการปราบ ทีมชาติเบลเยียม ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 ในรอบแบ่งกลุ่มเกมที่ 2 ของฟุตบอลโลก 2022 เมื่อช่วงเวลาค่ำคืนที่ผ่านมา (27 เดือนพฤศจิกายน 65)
หลังความปราชัยแบบหมดสภาพ แฟนบอลกองทัพ ปิศาจแดงแห่งยุโรป ก็ออกมาชุมนุมในใจกลางกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม และยังมีอีกเมืองอย่าง แอนต์เวิร์ป ก็โดนไปด้วยเหมือนกันกับ เมืองหลวงของ เนเธอร์แลนด์ อย่าง กรุงอัมสเตอร์ดัม ก็มีแฟนบอลเบลเยียมออกมา ระบายความขุ่นเคืองต่อความปราชัยในครั้งนี้
เบลเยียมมีประชากรเชื้อสายโมร็อกโกประมาณ 500,000 คน เว้นแต่กรุงบรัสเซลส์แล้ว ยังมีรายงานการก่อเหตุวุ่นวายในเมืองลีแยฌและแอนต์เวิร์ปด้วยเช่นเดียวกัน โดยจุดมุ่งหมายคือโรงพัก ซึ่งโดนทุบทำลายและโดนเผารถยนต์ ท้ายที่สุดสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้หลายสิบคน
โดยเริ่มจากการจุดไฟและขว้างก้อนอิฐใส่รถยนต์ตำรวจ โดยหลังหลังจากนั้นไม่นานตำรวจก็ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมไปในที่สุด โดยผู้ประกาศของตำรวจ กล่าวมาว่า ในกรุงบรัสเซลส์ มีผู้บาดเจ็บ 1 รายแค่นั้น
ทางการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่าร้อยนายเพื่อควบคุมเหตุการณ์ ขณะที่ประชาชนได้รับคำตักเตือนให้หลบหลีกพื้นที่บางส่วนของใจกลางเมือง สถานีรถไฟใต้ดินถูกปิด รวมทั้งปิดถนนหนทางบางเส้นทางเพื่อจำกัดผู้กระทำระจายตัวของเหตุร้าย ก่อนที่จะสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้และเหตุการณ์กลับสู่ปกติในด้านหลังที่สุด
ขณะที่ในกรุงแอนต์เวิร์ป มีแฟนบอลหลายสิบคนทุบกระจกร้าน ปาดอกไม้ไฟ และก่อไฟเผารถยนต์ ซึ่งการจราจรทางรถรางจะต้องหยุดชะงักตามคำสั่งของตำรวจ ซึ่งมีตำรวจกล่าวมาว่า มีผู้ชุมนุมถูกจับกุมสูงถึง 11 คน ร่วมกันในคืนวันนี้ จากกรณีนี้
เบลเยียม รั้งในอันดับ 3 ของกลุ่ม เอฟ ตามหลัง โครทวีปเอเชีย และ โมร็อกโก อยู่ 1 คะแนน โดยเกมสุดท้ายจะต้องเจอศึกใหญ่ด้วยการเจอกับ โครเอเชีย ในวันที่ 1 ธันวาคม นี้ เวลา 22.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย